เมนู

5. จตุตถอลังสูตร


[155] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 4
ประการ เป็นผู้สมารถในอันปฏิบัติเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น
แต่ไม่เป็นผู้สามารถในอันปฏิบัติเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ตน ธรรม
4 ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็น
ผู้มีความเข้าใจได้เร็วในกุศลธรรมทั้งหลาย 1 เป็นผู้ทรงจำธรรม
ที่ได้ฟังแล้ว 1 แต่ไม่พิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ได้ฟังแล้ว
และหารู้อรรถรู้ธรรมแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมไม่ เป็นผู้
มีวาจางาม กล่าวถ้อยคำไพเราะ ประกอบด้วยวาจาของชาวเมือง
อันสละสลวย ไม่มีโทษ ให้รู้ประโยชน์ 1 เป็นผู้ชี้แจงสพรหมจารี
ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญร่าเริง 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 4 ประการนี้แล เป็นผู้สมารถในอัน
ปฏิบัติเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น แต่ไม่เป็นผู้สามารถในอัน
ปฏิบัติเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ตน.
จบ จตุตถอลังสูตรที่ 5

6. ปัญจมอลังสูตร


[156] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 3
ประการ เป็นผู้สามารถในอันปฏิบัติเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ตน
แต่ไม่เป็นผู้สามารถในอันปฏิบัติเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น
ธรรม 3 ประการเป็นไฉน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัย
นี้ ไม่เป็นผู้มีความเข้าใจได้เร็วในกุศลธรรมทั้งหลาย แต่เป็นผู้
ทรงจำธรรมที่ได้ฟังแล้ว 1 พิจารณาเนื้อความแห่งธรรมที่ทรงจำ
แล้ว 1 รู้อรรถรู้ธรรมแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม 1 หาเป็น
ผู้มีวาจางาม กล่าวถ้อยคำไพเราะ ประกอบด้วยวาจาของชาวเมือง
อันสละสลวย ไม่มีโทษ ให้รู้ประโยชน์ไม่ และหาชี้แจงสพรหมจารี
ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจหาญร่าเริง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 3 ประการนี้แล เป็นผู้สมารถในอัน
ปฏิบัติเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ตน แต่ไม่เป็นผู้สมารถในอันปฏิบัติ
เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น.
จบ ปัญจมอลังสูตรที่ 6